top of page

คำถามทั่วไป

ควรนัดหมายก่อนเข้ามาที่คลินิกไหม?

ตอบ กรุณานัดหมายล่วงหน้า เนื่องจากทางคลินิกให้เวลาการตรวจ และรักษาในแต่ละเคสอย่างละเอียด หากไม่ได้นัดหมายล่วงหน้าอาจทำให้ต้องรอนาน

2

สามารถชำระเงินวิธีไหนได้บ้าง?

ตอบ เรารับชำระโดยเงินสด (ไทยบาทเท่านั้น), บัตรเครดิต, โอนเงิน หรือสแกน QR พร้อมเพย์ค่ะ

3

เราสื่อสารภาษาใดได้บ้าง?

ตอบ เราสามารถสื่อสารภาษาไทย อังกฤษ และจีนได้ สำหรับภาษารัสเซีย ภาษาอาหรับ หรือภาษาอื่นๆ จำเป็นต้องมีเครื่องมือช่วยเหลือในการสื่อสาร

4

ทำไมเราจึงอยากให้เข้ามาตรวจประเมินอาการที่คลินิก?

ตอบ เพื่อประเมินสภาพกระดูกกล้ามเนื้อ สภาวะร่างกาย อาการแสดงต่างๆ เพื่อหาสาเหตุ และกลไกเกิดอาการ เพื่อให้การวินิจฉัย และให้คำปรึกษาได้แม่นยำที่สุด

ซึ่งไม่สามารถประเมินได้จากการโทร หรือข้อความ เช่น

(การถ่ายรูปส่งมาก็ยังคงมีความแตกต่างของการแสดงสีหน้าจอ มุมภาพที่ถ่าย สภาพแสง และอื่นๆ)

  • การจับชีพจร(แมะ) ดูสีหน้า หรือดูสีลิ้น เพื่อร่วมใช้ประเมินสภาวะร่างกาย

  • การทำท่าทดสอบกล้ามเนื้อ หรือแนวกระดูกเพื่อตรวจตำแหน่งที่มีปัญหา

  • การดูสภาพสีผิว หรือลักษณะภายนอก เช่น บวมน้ำ การผิดรูปทรง รอยคล้ำ

  • การดูท่าทางการเดิน การขยับเคลื่อนไหว ความถนัดในการใช้กล้ามเนื้อ

  • การพูด จังหวะหายใจ ระดับน้ำเสียง และอาการแสดงอื่นๆ

5

ก่อนการรักษา ควรเตรียมตัวอย่างไร?

ตอบ

  1. ควรทานอาหารก่อนเข้ารับการฝังเข็ม 1-2 ชม. เพราะถ้าฝังเข็มในช่วงผู้ป่วยอ่อนเพลีย หิว หรือแน่นท้องมากจะมีโอกาสเมาเข็มได้ง่าย

  2. ทำใจผ่อนคลาย พักผ่อน นอนหลับอย่างเพียงพอ ในคืนก่อนมารับการฝังเข็ม

  3. สวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ ไม่รัดแน่นเกินไป (ไม่ต้องกังวล ทางคลินิกมีชุดให้เปลี่ยน)

  4. กรุณาแจ้งแพทย์เกี่ยวกับอาการที่เป็นทั้งหมด ไม่ใช่แค่อาการที่มารักษาเท่านั้น เนื่องจากแพทย์จีนมองทั้งร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกัน ให้แจ้งตามจริงเพื่อการวินิจฉัยที่แม่นยำ

6

การรักษามีข้อห้าม ข้อควรระวัง อะไรบ้าง?

ตอบ

ข้อควรระวัง (สามารถฝังเข็ม ครอบแก้ว ทายาจีนได้ แต่อาจมีข้อจำกัดในบางกรณี)

  1. อ่อนเพลีย หิว หรือแน่นท้องมากเกินไปตอนมารักษา

  2. ผู้ที่มีโรคหัวใจ, วิตกกังวล, กลัวเข็มมาก หรือควบคุมตนเองไม่ได้ ควรแจ้งแพทย์ และมีญาติคอยดูแลขณะรับการรักษา

  3. ผู้ป่วยที่มีเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ (Pacemaker Implantation) ควรแจ้งแพทย์ก่อนการฝังเข็มทุกครั้ง

  4. สตรีมีครรภ์

  5. โรคมะเร็ง

ข้อห้าม !! (ห้ามฝังเข็ม ครอบแก้วโดยเด็ดขาด อาจทานยาจีนได้ในบางกรณี)

  1. มีแผลเปิดติดเชื้อในบริเวณที่จะทำการรักษา

  2. โรคหลอดเลือดที่มีความผิดปกติของระบบแข็งตัวของเลือด

  3. ผู้ป่วยที่ใช้ยาเหล่านี้ ภายใน 14 วัน

  • สารกันเลือดแข็งตัว (Anticoagulant)

  • ยาละลายลิ่มเลือด (rtPA)

  • LMVH (Fraxiparin & Clexan)

  • Pradaxa (Dabigatran )

  • Xarelto (Rivaroxaban)

  • Eliquis (Apixaban)

  • Lixiana (Edoxaban)

  • Orfarin (Warfarin)

  • Heparin

7

สุภาพสตรีกำลังมีรอบเดือน สามารถทำการรักษาได้หรือไม่?

ตอบ สามารถทำการรักษาด้วยการฝังเข็ม และครอบแก้วได้ โดยจะเลือกจุดที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงจุดที่อาจกระตุ้นให้เลือดไหลมากขึ้น หรือทำให้ผู้ป่วยรู้สึกไม่สบาย

และเนื่องจากการฝังเข็ม และครอบแก้ว มีผลช่วยในการไหลเวียนเลือด จึงช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือน หรืออาการข้างเคียงอื่นๆได้

8

สามารถเบิกค่ารักษา กับประกันได้หรือไม่? 

ตอบ แนะนำให้สอบถามตัวแทนประกันของท่านโดยตรง เนื่องจากประกันแต่ละแบบมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน โดยคนไข้ต้องชำระเงินค่ารักษาให้ทางคลินิกเองก่อน และทางคลินิกออกใบรับรองการรักษา และใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปเป็นเอกสารในการเคลมเงินกับประกัน

9

คลิินิกมีบริการรับ - ส่ง คนไข้หรือไม่?

ตอบ ขอโทษด้วยค่ะ เราไม่มีบริการรถรับส่ง คนไข้ต้องเดินทางมาที่คลินิกเองค่ะ

คำถามยาจีน

ยาจีนของพังงาคลินิก  ขม ทานยากไหม? 

ตอบ ยาจีนส่วนใหญ่ของพังงาคลินิกอยู่ในรูปแบบตำรับสำเร็จรูป บรรจุแคปซูล และยาผงชงน้ำ

มีการปรับสูตรให้ทานง่าย ไม่ขม ไม่กัดกระเพาะ ปราศจากการเติมแต่งยาเคมี

2

ยาจีนของพังงาคลินิก มีรูปแบบไหนบ้าง?

ตอบ ยาจีนของพังงาคลินิกมี 2 รูปแบบ ดังนี้ 

1. ยาจีนชนิดแคปซูล

ข้อดี - ทานง่ายไม่มีกลิ่นหรือรสชาติ, ราคาไม่สูง(เริ่มต้น 480 บาท), ปรับปริมาณยาได้ง่าย

ข้อเสีย - เนื่องจากยาอยู่ในรูปแบบธรรมชาติ ไม่มีการสกัด จำนวนเม็ดต่อวันจึงค่อนข้างเยอะ (6 แคปซูล/วัน/ตำรับ) คนที่ทานยาไม่เก่งอาจต้องทานน้ำมาก แล้วท้องอืด แนะนำสามารถแบ่งมื้อยาย่อยๆ หรือถอดแคปซูลชงในน้ำอุ่นได้

2. ยาจีนชนิดผงชงน้ำ

ข้อดี - มีกลิ่น และรสชาติเล็กน้อยทานง่าย, ปริมาณต่อวันน้อย, ปรับปริมาณยาได้ง่าย

ข้อเสีย - ราคาสูงกว่า(เริ่มต้น 900 บาท)

3

ยาสมุนไพรจีน อันตรายไหม? มีสเตียรอยด์ไหม? 

ตอบ ทางคลินิกควบคุมจ่ายยาโดยแพทย์แผนจีนมีใบอนุญาติถูกต้องตามกฎหมาย มีความปลอดภัยสูง

  • ยาทุกตัวของคลินิกไม่มีการผสมสเตียรอยด์สังเคราะห์ เรามีใบอนุญาติสถานพยาบาล มีหน้าร้านสถานที่ชัดเจน หากตรวจพบมีบทลงโทษทางกฎหมาย สามารถแจ้งเอาผิดได้

  • แต่ยังมีสารสเตียรอยด์ธรรมชาติ ซึ่งพบในคน พืชและสิ่งมีชีวิตต่างๆได้ทั่วไปอยู่แล้ว (พันธะสูตรโครงสร้างทางเคมีไม่เหมือนกับสเตียรอยด์สังเคราะห์)

  • ในบางรายอาจมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นได้ เช่น ผื่นคัน โดยเฉพาะในยาตำรับที่มีส่วนผสมจากสัตว์ หากมีอาการให้แจ้งแพทย์ (ปกติจะแจ้งอาการที่อาจเกิดขึ้นให้คนไข้ทราบตอนจ่ายยาอยู่แล้ว)

ยาจีน สามารถทานคู่กับยาแผนปัจจุบัน หรือยาแผนไทยได้ไหม?

ตอบ ควรแจ้งให้เราทราบถึงยาที่คุณใช้ เพื่อเลี่ยงการทับซ้อนของยา

ยาแผนปัจจุบัน - ได้ โดยเว้นห่างกัน 1 ชั่วโมง ให้ยึดเวลาทานของแผนปัจจุบันเป็นหลัก

ยาแผนไทย - ได้ แต่เนื่องจากมีสมุนไพรหลายตัวที่แผนไทย และแผนจีนใช้ทับซ้อน หรือใกล้เคียงกัน ต้องแจ้งให้เราทราบ เพื่อปรับเปลี่ยนยาจีนที่จ่ายให้เหมาะสมที่สุด

คำถามการฝังเข็ม

การฝังเข็มได้ผลจริงไหม? มีกลไกการรักษาอย่างไร?

ตอบ สามารถอ่านรายละเอียดของกลไกของการฝังเข็ม และตัวอย่างอาการที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การยอมรับ ได้ในบทความตามลิ้งค์นี้ค่ะ 👉 https://www.phangngaclinic.com/post/how-does-acupuncture-work

2

เข็มฝังเข็มเป็นยังไง? เจ็บไหม? รู้สึกอย่างไร?

ตอบ เข็มที่นำมาใช้ในฝังเข็ม เป็นเข็มตัน แบบปลอดเชื้อใช้ครั้งเดียวทิ้ง (disposable) ขนาดและความยาวขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของจุดต่างๆ

เข็มที่ผ่านการใช้งานแล้วจะถูกทำลายทิ้ง และไม่นำกลับมาใช้ซ้ำ

 

การฝังเข็มไม่เจ็บเหมือนการฉีดยา เนื่องจากเข็มเข็มที่ใช้เป็นเข็มตัน และมีขนาดเล็ก ไม่ใหญ่เท่าเข็มฉีดยา

 

โดยทั่วไป จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อยตอนที่เข็มผ่านชั้นผิวหนังเข้าไป หลังจากนั้นจะมีความรู้สึก หนัก ชา ช็อต ตื้อ ในตอนที่ลงไปถึงตำแหน่งจุดฝังเข็ม (รู้สึกได้แรงเหมือนตอนที่นวดโดนจุด)

3

การฝังเข็ม ปลอดภัยไหม? มีอันตรายอะไรบ้าง?

ตอบ การฝังเข็มเป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ไม่ได้มีอันตราย หรือผลข้างเคียงรุนแรง ถ้ามีการรักษาที่ถูกต้องตามหลักของการฝังเข็ม และให้การรักษาโดยแพทย์หรือแพทย์แผนจีนได้รับใบรับอนุญาต หรือใบประกอบโรคศิลปะ

 

อาการหรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยอาการจะดีขึ้นเอง ภายใน 72 ชั่วโมง หากทนไม่ไหวแนะนำดังนี้

  • มีไข้/ปวดระบม ทานยาแก้ปวดลดไข้ได้ตามปกติ

  • รอยบวม/รอยช้ำ 24 ชั่วโมงแรก ประคบเย็น หลังจากนั้นประคบร้อน

 

แต่ อาจมีภาวะปอดรั่ว เข็มงอ เข็มหัก การแท้งบุตร เกิดขึ้นได้ หากผู้ให้การรักษาไม่มีความระมัดระวัง หรือไม่มีความรู้ตามหลักการฝังเข็ม

4

ต้องรักษานานเท่าไหร่? บ่อยแค่ไหน?

ตอบ

  • ถ้าเป็นอาการปวดเมื่อยทั่วไป เบื้องต้นแนะนำรักษาต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง เพื่อดูการเปลี่ยนแปลง และระยะเวลาการคงอยู่ของผลการรักษา

  • ความถี่ของการฝังเข็มช่วงแรก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นกับอาการ และสภาพร่างกายคนไข้

  • หลังจากนั้นจะค่อยๆ เว้นห่างออกไปได้ตามอาการของแต่ละคน

5

หลังการรักษาต้องดูแลอย่างไร? ต้องพักฟื้นไหม?

ตอบ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยส่วนมากไม่จำเป็นต้องพักฟื้น

แต่ในบางคนอาจมีระบม หรือมีไข้ประมาณ 2-3 วัน โดยเฉพาะหลังการทำ Dry Needling

 

คำแนะนำหลังการรักษา

  1. พักผ่อนให้เต็มที่อีก 1 วัน ไม่ควรกลับไปทำงานหนัก หรือออกกำลังกายจนเหนื่อยมากเกินไป

  2. งดอาบน้ำเป็นเวลา 2 ชม. หลังการฝังเข็ม หรือครอบแก้ว

  3. หากมีอาการเหล่านี้หลังรักษาทั่วไปอาการจะดีขึ้นเอง ภายใน 72 ชั่วโมง หากทนไม่ไหวแนะนำดังนี้

  • มีไข้/ปวดระบม ทานยาแก้ปวดลดไข้ได้ตามปกติ

  • รอยบวม/รอยช้ำ 24 ชั่วโมงแรก ประคบเย็น หลังจากนั้นประคบร้อน

คำถามการครอบแก้ว

ครอบแก้วรู้สึกอย่างไร? เจ็บไหม?

ตอบ โดยทั่วไปจะไม่เจ็บ แค่รู้สึก ตึงๆ หนักๆ บริเวณผิวที่ทำการครอบแก้ว

แต่ การเดินแก้ว (ครอบแก้วน้ำมัน) หากในบริเวณที่ทำมีผังผืดเยอะ อาจเจ็บมากในครั้งแรกที่ทำ

2

รอยครอบแก้ว จะหายในประมาณกี่วัน?

ตอบ รอบครอบแก้ว จะค่อยๆจางลง และหายไป ในประมาณ 5-7 วัน 

3

หลังครอบแก้ว อาบแดดได้ไหม?

ตอบ ควรงดการโดนแสงแดดโดยตรงในบริเวณที่ทำการครอบแก้วเป็นเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมง 

หากไม่พบคำถามที่สงสัย สามารถติดต่อสอบถามเราได้

เรายินดีหาคำตอบให้ทุกข้อสงสัย

bottom of page